ในการเลือกคณะที่ใช่ มหาลัยฯ ที่ชอบอาจจะเป็นสิ่งที่น่าปวดหัวสำหรับน้องหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีตัวเลือกคณะและหลักสูตรที่น่าสนใจมากมาย และที่สำคัญบางหลักสูตรยังมีความคล้ายคลึงกันจนยิ่งทำให้เลือกได้ยากเข้าไปอีก
BC (ชื่อเก่า BEC) และ BBA เป็น 2 หลักสูตรที่ได้รับความสนใจเยอะมาก และถูกถามเข้ามาว่าทั้ง 2 คณะนี้เรียนแตกต่างกันอย่างไร ในโพสต์นี้จะพามาทำความเข้าใจหลักสูตรของทั้ง 2 ที่มากขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจสำหรับน้องๆ ที่กำลังอาจลังเลว่าจะเลือกเรียน BBA หรือ BC ดีค่ะ
เกริ่นนำหลักสูตร
BBA
หลักสูตร BBA หรือบริหารฯ หลักสูตรนานาชาติเป็นหลักสูตรที่ได้การยอมรับอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการศึกษาทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติทางด้านธุรกิจ โดยมีเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุมเรื่องการเงิน การตลาด การจัดการ และการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
หลักสูตร BBA จากมหาลัยฯ ชื่อดังในไทยมีอยู่ด้วยกัน 7 สถาบันด้วย ได้แก่
1. BBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีให้เลือก 2 สาขา
- International Business Management มี 3 สาขาย่อย
- International Business
- Financial Analysis and Investment
- Brand Marketing Management
- Accounting
2. BBA ธรรมศาสตร์มีให้เลือก 3 สาขา
- Accounting
- Marketing
- Finance
3. BBA MUIC มีให้เลือก 4 สาขา
- Business Economics
- Finance
- International Business
- Marketing
4. BBA เกษตรศาสตร์มีให้เลือก 2 สาขา
- Marketing
- Business Administration
5. BBA SUIC มีให้เลือก 3 สาขา
- Business and Technology
- Luxury Brand Management
- Hotel Management
6. BBA KMITL มีให้เลือก 2 สาขา
- BBA
- BBA Global Entrepreneurship
7. BBA ABAC มีให้เลือก 9 สาขา
- Entrepreneurship and Innovation
- Marketing
- International Business
- Finance
- Digital Business
- Supply Chain
- Insurance
- Real Estate
- Hospitality and Tourism
BC
BC การสื่อสารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Business Communication (แต่ก่อนเราจะรู้จักกันในชื่อของ BEC: Business English Program) เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี โดยเน้นเฉพาะทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมทางธุรกิจ
BC เปิดสอน 4 วิชาเอก ได้แก่
- การสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ
- การสื่อสารภาษาจีนเพื่อธุรกิจ
- การสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ
- การสื่อสารภาษาเกาหลีเพื่อธุรกิจ
หลักสูตรของแต่ละวิชาเอกได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา ซึ่งรวมถึงการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนในบริบททางธุรกิจ นอกจากนี้ หลักสูตรจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้รับทักษะที่จำเป็นสำหรับธุรกิจในบริบททางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงการประชุมทางธุรกิจ การนำเสนอทางธุรกิจ การเจรจาต่อรอง กฎหมายธุรกิจ การแปลและการตีความ โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนเพิ่มความสามารถทางภาษาที่สามซึ่งจะช่วยขยายโอกาสในการทำงานในอนาคต
วิชาหลักของทั้ง 2 คณะที่เรียนคล้ายกัน
คณะ BBA และ BC มีวิชาที่เรียนคล้ายกันดังนี้
- Strategic Marketing
- International Economics
- Financial Accounting
- International Management and Entrepreneurship
วิชาหลักของทั้ง 2 คณะที่เรียนไม่เหมือนกัน
BBA
หลักสูตรนี้จะเน้นให้ผู้เรียนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านแนวคิดทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการบัญชี การเงิน การตลาด และการจัดการ วิชาบังคับ (Core) ในหลักสูตร BBA ได้แก่
- Accounting
- Taxation
- Business Statistics
- Business Finance
- Introductory Microeconomics
- Introductory Macroeconomics
นอกจากนี้ยังมีวิชาบังคับของแต่ละสาขา (Major) ที่เลือกอีกด้วย เช่น
- สาขาบัญชี (Accounting) จะเจาะลึกในวิชาประเภท Auditing, Advanced Accounting 2 และ Financial Reporting and Statement Analysis เป็นต้น
- สาขาการเงิน (Finance) จะเจาะลึกในวิชาประเภท Financial Mathematics and Statistics, Investment และ Wealth Management เป็นต้น
- สาขาการตลาด (Marketing) จะเจาะลึกในวิชาประเภท Consumer Behavior, Brand Management และ Marketing Research for Decision Making
BC
เนื้อหาจะเน้นทักษะการสื่อสารภาษาที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจ หลักสูตรได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ซึ่งรวมถึงการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนภาษาในบริบททางธุรกิจ ซึ่งวิชาบังคับ (Core) ในหลักสูตร BC ไม่ว่าจะเรียนสาขาภาษาใดก็ตาม จะมีวิชาดังต่อไปนี้
- International Business English Reading
- International Business English Writing
- Business English Listening and Speaking
- Project Management
- Internship Program
นอกจากนี้ยังมีวิชาบังคับของแต่ละสาขา (Major) ที่เลือกอีกด้วย เช่น
ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ จะเจาะลึกในวิชา Business Presentations and Meetings, Academic Writing, Intercultural Business Communication และ Technical Business Writing เป็นต้น
- ภาษาจีนเพื่อธุรกิจ จะเจาะลึกในวิชา Chinese Communication, Doing Business in China และ Chinese Business Writing
- ภาษาญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ จะเจาะลึกในวิชา Japanese Business Communication, Japanese Business Writing และ Japanese Translation
- ภาษาเกาหลีเพื่อธุรกิจ จะเจาะลึกในวิชา Korean Business Communication, Korean Business Writing และ Korean Translation
จบไปแล้วทำอาชีพอะไรได้บ้าง
BBA
- นักวิเคราะห์การเงิน
- ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
- ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
- ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ
- ที่ปรึกษาด้านการจัดการ
- นักธุรกิจ
- นายธนาคารเพื่อการลงทุน
BC
- พนักงานในองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจระหว่างประเทศ
- พนักงานในบริษัทข้ามชาติ
- นักธุรกิจ/เจ้าของกิจการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ
- นักแปลเอกสารทางธุรกิจ
- อาชีพอื่นๆ ที่ต้องใช้ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นักประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
เกณฑ์การสอบเข้า
ในที่นี้จะเปรียบเทียบหลักสูตร BBA ของธรรมศาสตร์กับ BC ธรรมศาสตร์
BBA Thammasat
รอบ Inter Portfolio 1 และ 2
ขั้นที่ 1 : เกณฑ์คุณสมบัติทั่วไป
- ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษา/กำลังจะจบ ม.6 หรือเทียบเท่าตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำหนด
ขั้นที่ 2 : เกณฑ์คุณสมบัติเฉพาะ
1.ผู้สมัครมีคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้คือ คะแนนสอบ SAT (Scholastic Aptitude Test) และ/หรือ GSAT (General Scholastic Aptitude Test) ที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าดังนี้
2. ผู้สมัครมีคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้คือ คะแนนสอบ SAT (Scholastic Aptitude Test) และ/หรือ GSAT (General Scholastic Aptitude Test) ที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าดังนี้
3. Essay และ สัมภาษณ์ โดยต้องได้ขั้นต่ำ 5 คะแนน คิดเป็นสัดส่วน 10%
BC Thammasat
- ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษา/กำลังจะจบ ม.6 หรือเทียบเท่าตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำหนด และมีเกรดเฉลี่ย 4 – 6 เทอม ไม่ต่ำกว่า 3.00
- ผู้สมัครสามารถเลือกผลการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้แทนผลการศึกษาได้
- ผล IGCSE 5 วิชา (ไม่รวมภาษาไทย) ผลคะแนนไม่ต่ำกว่า C
- New GED minimum score of 660 (out of 800), minimum of 145 for each subject
- มีผลงานด้านวิชาการในสาขาภาษาที่เลือก และแสดงให้เห็นถึง Academics Activity, Business and Management Skill, Green Living and Sustainability, The world of digital and technology in 21st century และ Culture and Language specialities
- ผู้สมัครจะต้องได้คะแนนขั้นต่ำในการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
5. คะแนนความสามารถภาษาที่สามอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
6.สัมภาษณ์
เกณฑ์คุณสมบัติ รอบ Inter Admission 1 + 2
- ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษา/กำลังจะจบ ม.6 หรือเทียบเท่าตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำหนด และมีเกรดเฉลี่ย 5 เทอม ไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 6 เทอมไม่ต่ำกว่า 2.5
- ผู้สมัครสามารถเลือกผลการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้แทนผลการศึกษาได้
- ผล IGCSE 5 วิชา (ไม่รวมภาษาไทย) ผลคะแนนไม่ต่ำกว่า C
- New GED minimum score of 660 (out of 800), minimum of 145 for each subject
- ผู้สมัครจะต้องได้คะแนนขั้นต่ำในการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
4. คะแนนความสามารถภาษาที่สามอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
5. สอบข้อเขียนภาษาอังกฤษและสัมภาษณ์
จำนวนนักรับนักศึกษาจำนวน 150 คน
สรุป
BC คือคณะศิลปศาสตร์ (ภาษา) มีเรียนวิชาพื้นฐานบริหารแต่จะเรียนเน้นไปที่การเรียนและการใช้งานภาษามากกว่า ส่วน BBA คือคณะบริหาร เน้นทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติทางด้านธุรกิจ โดยมีเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุมเรื่องการเงิน การตลาด การจัดการ และการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ หากน้องๆ คนไหนชอบภาษามากกว่า อยากเรียนรู้การบริหารแค่พอเป็นพื้นฐาน BC น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่ถ้าน้องมีความสนใจเกี่ยวกับด้านบัญชี การเงิน การตลาดและการจัดการ ชอบสายงานบริหารและชอบวิเคราะห์ข้อมูล แก้ไข้ปัญหา คณะ BBA น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับน้องค่ะ นอกจากนี้ๆ น้องๆ สามารถศึกษาตัวเนื้อหาหลักสูตรของทั้งสองคณะนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง หรือสอบถามพี่ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ หรือศิษย์เก่าเพื่อเป็นตัวเลือกก่อนตัวสินใจเลือกเรียนระหว่าง 2 คณะนี้ค่ะ