เจาะลึกการเรียนใน BEC TU

Table of Contents

ยินดีต้อนรับน้องๆ ชาวสายศิลป์อีกเช่นเคย แต่เอ๊ะจริงๆ น้องๆสายวิทย์-คณิต หรือ คำนวณก็แวะเข้ามาอ่านกันได้น้า เพราะในบทความนี้พี่จะมาแนะนำและเจาะลึกการเรียนในคณะศิลปศาสตร์ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หรือที่เราอาจเคยได้ยินรุ่นพี่เรียกคุ้นหูมาบ้างนั่นก็คือ Bec Tu นั่นเองง ถ้าน้องๆ เป็นคนที่สนใจจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองหรืออยากที่จะบริหารงานด้านธุรกิจในอนาคตโดยอาศัยทักษะการสื่อสารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วล่ะก็ ลองเก็บคณะ Bec Tu ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอีกหนึ่งคณะด้วยน้า แต่ก่อนอื่นใดพี่ๆ จะมาแนะนำและเล่าถึงการเรียนในคณะนี้อย่างเจาะลึกว่าเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

ทำความรู้จักคณะ BEC TU เบื้องต้น

Business English Communication หรือ Bec Tu ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะศิลปศาสตร์ และเรียนเป็นภาคอินเตอร์ โดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่คณะนี้เปิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์น้องๆที่อยากจะเรียนภาษาแต่ไม่ได้อยากจะใช้ภาษาในเชิงลึกอย่างการเรียนวรรณคดีหรือวัฒนธรรมเหมือนกับชาวอักษรศาสตร์ แต่น้องๆที่เรียนคณะนี้สามารถที่จะนำทักษะด้านภาษาไปใช้สื่อสารด้านธุรกิจ ซึ่งถ้าเราไปเรียนคณะบริหารหรือบัญชีเราก็อาจได้รู้มุมมองด้านธุรกิจเป็นเชิงลึกซะส่วนใหญ่ แต่ BEC Tu จะเน้นสอนภาษาเพื่อนำไปใช้ในการทำงานจริงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น การเจรจาติดต่อสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ การเขียนตอบจดหมายทางธุรกิจ และจะสอนในเรื่องพื้นฐานธุรกิจและการตลาดอีกด้วย

ทำความรู้จักคณะ BEC TU เบื้องต้น

แม้ว่าคณะนี้จะเป็นหนึ่งในคณะยอดฮิตของน้องๆสายศิลป์ที่สนใจเรียนทางด้านภาษาและอาจมีน้องๆกำลังกังวลว่า เรียน BEC หรือคณะแบบศิลปศาสตร์ ภาษาเนี่ยมันจะมีด้านคำนวณคิดเลขบ้างไหม ตอบเลยว่า มีแน่นอนจ้า เป็นวิชาคณิตศาสตร์ที่เป็นวิชาเลือก สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าใครกลัวการคำนวณตัวเลขเยอะก็อาจเลือกไปทางคอมพิวเตอร์ก็ได้น้า

4 ปีที่คณะ BEC TU เรียนอะไรบ้าง

เอาล่ะ เรามาพูดถึงหลักสูตรและการเรียนในคณะนี้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

วิชาเรียนปี 1 ที่ Bec

สำหรับหลักสูตรและการเรียนตอนปี 1 ในเทอมแรก น้องๆที่เข้ามาเรียนใน คณะ BEC จะได้เรียนวิชาที่เป็นวิชาของคณะสองตัวนั่นก็คือ Analysis of English Structure เป็นวิชาวิเคราะห์เกี่ยวกับแกรมม่าล้วนๆ รูปประโยค การเชื่อมประโยค การหา Error ในประโยค ซึ่งวิชาอาจค่อนข้างยากหน่อยแต่ถ้าน้องๆคนไหนที่พื้นฐานแกรมม่าดีก็อาจไม่หนักมากหนัก และ วิชา Effective English Pronunciation จะเป็นการเรียนเกี่ยวกับการออกเสียงที่ถูกต้อง แอบบอกว่าวิชานี้พี่ๆจากทาง Bec Tu รีวิวมาว่าชอบสุดเลยใน ปี1 เพราะเหมือนเราได้เรียนการออกเสียงคำให้ถูกต้องซึ่งก็จะช่วยให้เราสามารถพูดและใช้ภาษาอังกฤษได้แม่นยำขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งน้องๆปี 1 ก็จะได้เรียนวิชาพื้นฐานเกี่ยวกับด้านภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ก่อน ส่วนวิชาเลือกมหาลัยใน ปี1 ที่พี่จาก Bec รีวิวมาว่าสนุกและได้ทำกิจกรรมทัศนะศึกษาด้วยก็คือวิชา Man and Arts ซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับศิลปะในยุคต่างๆและดนตรีไทย-สากล ในตอนที่เรียนอาจารย์ก็ได้พาไปทักศนศึกษาที่หอศิลป์ MOCA ไปชมงานศิลปะต่างๆ ได้ออกไปกับเพื่อนๆซึ่งก็สนุกและบันเทิงมากๆค่ะ รวมๆแล้วส่วนใหญ่นอกจากวิชาคณะสองตัวหลักๆแล้วก็จะเป็นวิชาเลือกที่สามารถเลือกลงได้ตามความชอบเลย

วิชาเรียนปี 2 ที่ Bec

พอขึ้นปี 2 น้องๆนักศึกษาก้จะได้เริ่มเรียนในวิชาภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจเชิงลึกมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น วิชา Business English Reading, Business English Writing, Listening and Speaking ทั้งอ่านเขียนพูดฟัง เรียกได้ว่าเป็นการเรียนทักษะภาษาอังกฤษแบบครบทุกหน่วยจริงๆค่ะ ส่วนในเทอมสองของปี 2 ก็จะได้เจอกับวิชาที่เริ่มเป็นธุรกิจและการตลาดมากขึ้น อย่าง Principle of Marketing และ Fundamental Accounting ที่จะเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานหลักการตลาดและการบัญชีตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งพี่ๆว่าวิชาเหล่านี้ค่อนข้างสำคัญและเป็นหนึ่งในเรื่องพื้นฐานที่ควรมีติดตัวในยุคนี้เลย นอกจากนี้ยังจะมีวิชาที่สำคัญและน่าเรียนอย่าง Business Presentations and Meeting ซึ่งเรียนเกี่ยวกับการนำเสนองานและการทำงานเกี่ยวกับทางด้านธุรกิจ การเรียนก็จะเป็นแบบอาจารย์จะกำหนดหัวข้อให้นักศึกษาในคลาสพรีเซ้นงาน 10-15 นาที หัวข้องานค่อนข้างทั่วๆไป เช่น ศาสนา สังคม ภาษี การเงิน และมีให้ dabate กับเพื่อนในคลาสด้วย ค่อนข้างสนุกเลยเพราะต้องเตรียมข้อมูลมาถกกันแบบบสุดๆ แต่อาจารย์ค่อนข้างจะเคร่งนิดหน่อยเลยค่ะถ้าเกินเวลาก็อาจได้ 0 เลย และหัวข้อก็ค่อนข้างยากและจริงจังมากๆต้องหาข้อมูลและเตรียมตัวดีๆ

วิชาเรียนปี 3 ที่ Bec

มาถึงในปี 3 ก็จะมีวิชาที่สำคัญๆอย่าง Writing Business Report and Proposal ที่จะได้ทำเกี่ยวกับ Business project เช่น การ Rebranding สินค้า โปรดักส์ เหมือนเราเป็นเอนเจนซี่ฝ่าย Marketing เลยละค่ะ ส่วนอีกอย่างที่น้องๆอ่านมาถึงตรงนี้อาจสงสัยว่าแล้วถ้าอยากเรียนภาษาที่สามจะมีให้เรียนด้วยไหม บอกเลยว่ามีแน่นอนค่า ภาษาที่สามก็สามารถเลือกเรียนได้ เช่น ภาษาเกาหลี จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น ก็สามารถเลือกลงเรียนได้ตามความชอบเลย หลักๆส่วนใหญ่แล้วน้องๆ ใน BEC ก็จะเน้นเรียนเกี่ยวการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานด้านธุรกิจในอนาคตโดยเฉพาะ ใครมีความฝันจะทำงานด้านนี้บอกเลยว่าคณะ Bec Tu ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

วิชาเรียนปี 4 ที่ Bec

ส่วนในปีที่ 4 จะมีวิชาเรียนเกี่ยวกับการทำวิจัยทางธุรกิจ หรือ Business Research ซึ่งจะสอนเกี่ยวกับหลักการทำวิจัยทางธุรกิจ การสร้างสมมติฐาน การออกแบบการวิจัย เก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยกำหนดการแข่งขัน กลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงความมั่นคงทางการเงินสำหรับการทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีวิชาทำแผนธุรกิจ หรือ Business Project for Global Competitiveness ซึ่งจะสอนขั้นตอนการสร้างแผนธุรกิจและโครงการทางธุรกิจในบริบทภาคอุตสาหกรรมและบริษัทต่างๆ เพื่อให้น้องๆ สามารถเข้าสู่ตลาดการแข่งขันในโลกของธุรกิจได้อย่างแท้จริง

สรุป

สำหรับใครที่มั่นใจแล้วว่าเนี่ยล่ะเป็นคณะที่ใช่สำหรับเราหรือว่าเริ่มสนใจอยากจะเก็บ Bec Tu ไว้ในใจแล้วล่ะก็สามารถจะติดตาม requirement และเกณฑ์การสอบได้จากบทความ https://www.engsnack.com/becthammasat/ และอีกอย่างที่สำคัญในคณะนี้ก็คือการเขียน essay แอบบอกว่าพี่ๆจากคณะ Bec บอกมาว่า ปีสองจะมีให้เขียนงาน essay เป็นการบ้านเยอะที่สุด เขียนแทบจะทุกอาทิตย์เลยล่ะค่ะ แต่ก็น้ามันคือทักษะที่สำคัญอีกหนึ่งด้านของชาว BEC Tu เนอะ เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆคนไหนสนใจและอยากจะเตรียมความพร้อมเพื่อลุยสนามต่อไป สามารถที่จะสอบถามเพิ่มเติมและแวะมาปรึกษากับพี่ๆ Engsnack ได้ที่ line @Englishsnack พี่ๆยินดีตอบและให้คำปรึกษาทุกช่องทางตั้งแต่เตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาจนไปถึงข้อสอบข้อเขียน