IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System เป็นข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ เพื่อทดสอบผู้สมัครที่ต้องการนำผลคะแนนไปยื่นประกอบการศึกษาหรือทำงาน
ทำไมต้องสอบ IELTS
จริงๆ แล้วจุดประสงค์ในการสอบ IELTS มีหลายอย่างมากไม่ใช้เฉพาะใช้ในการศึกษาต่อเพียงอย่างเดียว ยังสามารถใช้เพื่อ
● การทำงานและใช้ชีวิตในต่างแดน
IELTS ได้รับการยอมรับจากองค์กรมากกว่า 11,000 แห่งมากกว่า 140 ประเทศโดยองค์กรเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยงานราชการ สถานบันการศึกษา และผู้ประกอบการ ซึ่งมีจำนวนมากถึง 3,400 แห่งเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
● ไปในที่ที่คุณอยากไป
ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักส่วนใหญ่ คุณจะต้องมีหลักฐานที่แสดงถึงทักษะทางภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสมัครเข้าทำงาน และสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
● พิสูจน์ตัวเองในประเทศบ้านเกิด
แสดงทักษะทางภาษาอังกฤษด้วยการสอบ IELTS สามารถช่วยให้คุณได้งานที่ดีกว่าหรือได้เลื่อนขั้นในประเทศบ้านเกิด
● ต้องการโยกย้ายถิ่นฐาน
ผลสอบ IELTS จะช่วยให้คุณมีคุณสมบัติตามที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ซึ่งทุกแห่งที่ต้องการการทดสอบภาษาอังกฤษจะให้การยอมรับการสอบ IELTS
การสอบ IELTS มีกี่ประเภท
การสอบ IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
IELTS Academic (เพื่อการศึกษาต่อ) เพื่อเรียนต่อที่ใดก็ได้ในโลกในระดับปริญญาตรี โท และ เอก
IELTS General Training (เพื่อการฝึกอบรม) เพื่อสอบเข้าในระดับต่ำกว่าปริญญา โยกย้ายิ่นฐาน หรือ ทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
ข้อสอบทดสอบอะไรบ้าง
การสอบ IELTS จะมีการทดสอบทั้งหมด 4 ทักษะ
● การสอบการฟัง (IELTS Listening) 30 นาที
ผู้สอบต้องฟังเนื้อเรื่องจากเครื่องเล่น CD ซึ่งเนื้อหาจะประกอบไปด้วยการสนทนา และบทพูด รวมทั้งการออกเสียงผู้สอบจะได้ฟังเทปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่จะมีเวลาให้ในการอ่านคำถาม และเขียนคำตอบ และในช่วงท้ายจะมีเวลาให้คัดลอกและตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบใน Answer Sheet อีก 10 นาที
● การสอบการอ่าน (IELTS Reading) 60 นาที
มีเนื้อเรื่องให้อ่าน 3 บทความ พร้อมด้วยคำถามที่ต้องปฎิบัติตาม ซึ่งเนื่อหาเหล่านี้ได้มาจากหนังสือ นิตยสาร และ หนังสือพิมพ์ ในทุกๆ เรื่องเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเฉพาะทางใดทางหนึ่ง จะมีคำถามทั้งหมดจำนวน 40 ข้อ
● การสอบการเขียน (IELTS Writing) 60 นาที
จะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง ให้เวลา 60 นาที
เรื่องแรก คือการเขียนในลักษณะอธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง เราจะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่เด่นๆ โดยที่ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำเป็นอย่างต่ำ
เรื่องที่สอง คือ การเขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออก ของปัญหาหรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
● การสอบการพูด (IELTS Speaking) 11-14 นาที
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป การใช้ชีวิตประจำวัน
ส่วนที่สอง กรรมการจะมีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที โดยจะมีบัตรคำถามมาให้ และจะให้เราพูดคนเดียวประมาณ 3-4 นาที
ส่วนสุดท้าย จะมีลักษณะคล้ายกับการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ได้จากส่วนที่สอง
IELTS Paper-based กับ IELTS Computer-based ต่างกันอย่างไร
การเลือกสอบแบบ Computer-Based นั้นแน่นอนว่าก็ต้องทำข้อสอบด้านการฟัง อ่าน และเขียนบนคอมพิวเตอร์ แต่การสอบพูดจะเป็นการสอบตัวต่อตัวกับ Examiner เหมือนเดิม
สอบ IELTS แบบ Paper-based หรือ Computer-based ดีกว่ากัน
การสอบแบบ Computer-based นั้น สามารถรับผลสอบได้หลังจากวันสอบเพียง 3 – 5 วัน ซึ่งจากปกติแบบ Paper-based จะรู้ผลภายใน 13 วัน ถ้าไม่อยากลุ้นนานในการรอผลก็สอบแบบ Computer-based เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้พูดถึงการสอบแต่ละพาร์ทอย่างละเอียด การสอบแต่ละแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียต่างกันแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนว่าถนัดสอบแบบ Computer หรือ Paper มากกว่า
Listening : Paper-based เหมาะสำหรับคนที่ถนัดจดโน๊ต ขีดเส้นใต้ หรือวงกลมเนื้อหาต่างๆ ในข้อสอบ
Reading : Paper-based เหมาะสำหรับคนที่ถนัดจดโน๊ต ขีดเส้นใต้ หรือวงกลมเนื้อหาต่างๆ ในข้อสอบ แต่ Computer-based สามารถ Copy & Paste ข้อความไปตอบได้เลย และยังสามารถปรับขนาดตัวอักษรและเปลี่ยนสีพื้นหลังให้อ่านได้ง่ายขึ้น ถ้าเป็นคนที่สามารถอ่านแบบ Paper หรืออ่านแบบจอได้อยู่แล้ว การสอบแบบ Computer-based อาจจะเหมาะกว่า
Writing : Computer-based เหมาะสำหรับคนที่ถนัดพิมพ์มากกว่าเขียน เพราะสามารถแก้ไขคำตอบได้รวดเร็วกว่าการลบแล้วเขียนใหม่ลงกระดาษคำตอบ รวมถึงในระบบยังมีการนับจำนวนคำให้อัติโนมัติอีกด้วย
Speaking : แบบ Computer-Based และ Paper-Based สอบเหมือนกันคือสอบ On-Site กับกรรมการ
ค่าสมัครสอบ IELTS
6,900 บาท
ผลสอบมีอายุเท่าไหร่
ผลสอบ IELTS มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่สอบ
แล้วคะแนน IELTS ยื่นศึกษาต่อที่ไหนได้บ้าง
ผลสอบ IELTS นั้นเป็นที่ยอมรับครอบคลุมทั้งองค์กรภาครัฐ สถานศึกษา และสถาบันชั้นนำใน 140 ประเทศ เช่น ประเทศไทย ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
มีการจัดสอบบ่อยแค่ไหน
การสอบ IELTS จะถูกจัดขึ้นเดือนละ 3-4 ครั้ง สามารถติดตามตารางสอบและลงทะเบียนได้ทาง www.ielts.idp.co.th
สรุป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ IELTS
● IELTS คือข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ เพื่อทดสอบผู้สมัครที่ต้องการนำผลคะแนนไปยื่นประกอบการศึกษาหรือทำงาน
● การสอบ IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ IELTS ACADEMIC (เพื่อศึกษาต่อระดับป.ตรี – เอก) และ IELTS General Training (เพื่อการฝึกอบรม)
● จัดสอบเดือนละ 3 – 4 ครั้ง
● ค่าสมัครสอบ 6,900 บาท
● ผลสอบมีอายุ 2 ปี
ข้อสอบ IELTS ทดสอบทั้งหมด 4 ทักษะ
● การฟัง 30 นาที
● การอ่าน 60 นาที
● การเขียน 60 นาที
● การพูด 11 – 14 นาที
ความแตกต่างระหว่าง IELTS Paper-based และ Computer-based
● การสอบแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกันขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนว่าถนัดสอบแบบ Computer หรือ Paper มากกว่ากัน
● การสอบ Speaking ทั้ง 2 แบบจะเหมือนกันคือสอบ On-Site กับกรรมการ
● แบบ Computer-based ได้ผลสอบเร็วกว่า