ข้อสอบ sat

เตรียมสอบ SAT อย่างมั่นใจ รู้ทุกโจทย์ปัญหาทุกแนวข้อสอบ

Table of Contents

หากน้องๆ กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวสำหรับการสอบ SAT พี่ได้สรุปทุกแง่มุมเกี่ยวกับการสอบ SAT ตั้งแต่ ‘การสอบ SAT คืออะไร’ ‘รูปแบบข้อสอบ SAT’ ‘ตัวอย่างข้อสอบ SAT ENG และ SAT MATH พร้อมเฉลย’ ในแต่ละหมวดหมู่ทักษะ ไปจนถึงเทคนิคการทำข้อสอบและวิธีการเตรียมตัวอย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกด้านที่น้องต้องรู้เพื่อให้น้องพร้อมสำหรับการสอบ SAT มากที่สุด 

แนวข้อสอบ SAT ENG และ SAT MATH

การสอบ SAT แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักได้แก่ SAT Eng และ SAT Math โดยภาพรวมของการสอบ SAT จะประกอบไปด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้

ExamNumber of questionsTime
Writing and Reading Module 127 คำถาม32 นาที
Writing and Reading Module 227 คำถาม32 นาที
Break 10 minutes
Math Module 122 คำถาม35 นาที
Math Module 222 คำถาม35 นาที

รวมทั้งหมด: 98 คำถาม 2 ชั่วโมง 14 นาที (ไม่รวมเวลาพัก)

Module 1 จะประกอบไปด้วยคำถามที่มีระดับความยากง่ายแตกต่างกัน ในขณะที่ Module 2 มีระดับความยากที่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากการทำข้อสอบใน Module แรก วิธีการทดสอบแบบนี้จะเรียกว่า Adaptive Testing และถึงแม้น้องๆ จะมีข้อที่ตอบผิดบ้าง แต่ระบบจะไม่มีการหักคะแนนสำหรับคำตอบที่ตอบผิด ดังนั้นน้องควรพยายามตอบทุกคำถามให้ครบถ้วน

Digital SAT Reading and Writing

Digital SAT Reading and Writing หรือ ข้อสอบ SAT Eng มีจุดประสงค์เพื่อประเมินความสามารถในการอ่านและเข้าใจบทความ รวมถึงการวัดทักษะด้านไวยากรณ์และการใช้เครื่องหมายวรรคตอน คำถามในข้อสอบ SAT Eng จะถูกจัดเป็น 4 หมวดหมู่เนื้อหาหรือ ‘Domain’ และแต่ละหมวดหมู่จะมีการแบ่งย่อยเป็นหมวดทักษะหรือ ‘Skill’ โดยมีรายละเอียดตามตารางดังนี้:

DomainSkillQuestion distribution
Information and ideasCentral Ideas and DetailsCommand of Evidence (Textual, Quantitative)Inferences≈26% (12-14 questions)
Craft and StructureWord in ContextText Structure and PurposeCross-Text Connections≈28% (13-15 questions)
Expression of IdeasRhetorical SynthesisTransitions≈20% (8-12 questions)
Standard English ConventionsBoundariesForm, Structure, and Sense≈26% (11-15 questions)

ตัวอย่างคำถาม

  1. Information and Ideas: ประเมินความสามารถในการเข้าใจ วิเคราะห์ และตีความเนื้อหาเพื่อใช้ในการตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลที่ให้มาได้แก่ บทความ ตาราง แผนภูมิแท่ง และแผนภูมิเส้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อย

1.1 Central Ideas and Details: ถามเกี่ยวกับใจความสำคัญและรายละเอียดต่างๆ ของเนื้อหา

1.2 Command of Evidence: ต้องเลือกตัวเลือกคำตอบที่สนับสนุนบริบทของโจทย์ได้ดีที่สุด

1.3 Inference: เป็นลักษณะคำถามที่ต้องอนุมานคำตอบจากข้อมูลในบทความ

2. Craft and Structure: ส่วนนี้วัดความเข้าใจเรื่องคำศัพท์

2.1 Words in Context: เลือกคำศัพท์ที่ความหมายเหมาะสมที่สุดกับบริบท

2.2 Text Structure and Purpose: เป็นลักษณะคำถามที่ต้องวิเคราะห์เพื่อหาจุดประสงค์ของเนื้อหา

2.3 Cross-text Connections: หาความเชื่อมโยงระหว่างบทความสองส่วน

3. Expression of Ideas: ข้อสอบในหมวดนี้ต้องการประเมินความสามารถในการปรับปรุงเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น

3.1 Rhetorical Synthesis: รวบรวมข้อมูลให้เป็นประโยคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

3.2 Transitions: ใช้คำเชื่อมที่เหมาะสมที่สุดในการเชื่อมไอเดียและประโยค

4. Standard English Conventions: ส่วนนี้ทดสอบเรื่องไวยากรณ์ โครงสร้างประโยค การใช้คำ และเครื่องหมายวรรคตอน

4.1 Boundaries: เติมประโยคให้สมบูรณ์ด้วยการใช้เครื่องหมายวรรคตอนที่ถูกต้อง

4.2 Form, Structure, and Sense: ใช้ Verb และ Tense ให้เหมาะสมเพื่อสร้างประโยคที่สมบูรณ์

แจกฟรี!! คำศัพท์ SAT ที่ควรรู้และออกสอบบ่อยมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

Digital SAT Math

คำถามในข้อสอบ SAT Math ถูกจัดแบ่งเป็น 4 หมวดหมู่เนื้อหาหลักหรือ ‘Domain’ และแต่ละหมวดหมู่นี้ยังมีการแบ่งย่อยลงไปอีกเป็นหมวดทักษะหรือ ‘Skill’ ตามรายละเอียดในตารางนี้:

Math Section Content DomainSkill/Knowledge Testing PointsOperational Question Distribution
AlgebraLinear equations in one variableLinear equations in two variablesLinear functionsSystems of two linear equations in two variablesLinear inequalities in one or two variables≈35%/ 13–15 questions
Advanced MathEquivalent expressionsNonlinear equations in one variable and systems of equations in two variablesNonlinear functions≈35%/ 13–15 questions
Problem-Solving and Data AnalysisRatios, rates, proportional relationships, and unitsPercentagesOne-variable data: distributions and measures of center and spreadTwo-variable data: models and scatter plotsProbability and conditional probabilityInference from sample statistics and margin of errorEvaluating statistical claims: observational studies and experiments≈15%/ 5–7 questions
Geometry and TrigonometryArea and volumeLines, angles, and trianglesRight triangles and trigonometryCircles≈15%/ 5–7 questions
  1. Algebra: หมวดนี้จำเป็นต้องใช้ทักษะในการแก้สมการและสร้างสมการเชิงเส้นหรืออสมการอย่างคล่องแคล่วโดยใช้เทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสม

1.1 Linear equations in one variable

1.2 Linear equations in two variables

1.3 Linear functions

1.4 Systems of two linear equations in two variables

1.5 Linear inequalities in one or two variables

2. Advanced math: โจทย์ในหมวดนี้มีระดับความยากสูงขึ้น ครอบคลุมการวิเคราะห์ การตีความ และการสร้างสมการ รวมถึงการจัดการกับค่าสัมบูรณ์ กำลังสอง เลขชี้กำลัง พหุนาม เหตุผล ราก และสมการไม่เชิงเส้นอื่นๆ และรวมถึงการวิเคราะห์และแก้สมการเชิงเส้นและไม่เชิงเส้นในสองตัวแปร

2.1 Equivalent expressions

2.2 Nonlinear equations in one variable and systems of equations in two variables

2.3 Nonlinear functions

3. Problem Solving and Data Analysis: โจทย์เกี่ยวกับอัตราส่วนและความสัมพันธ์ตามสัดส่วน ซึ่งต้องการความเข้าใจในการตีความข้อมูลตัวแปรอย่างแม่นยำ

3.1 Ratios, rates, proportional relationships, and units

3.2 Percentages

3.3 One-variable data: distributions and measures of center and spread

3.4 Two-variable data: models and scatter plots

3.5 Probability and conditional probability

3.6 Inference from sample statistics and margin of error

3.7 Evaluating statistical claims: observational studies and experiments

4. Geometry and Trigonometry: ประกอบด้วยโจทย์ที่เกี่ยวกับปริมาณ พื้นที่ ปริมาตร มุม สามเหลี่ยม ตรีโกณมิติ และวงกลม

4.1 Area and volume

4.2 Lines, angles, and triangles

4.3 Right triangles and trigonometry

4.4 Circles

ข้อสอบ SAT II คืออะไร

SAT II หรือ SAT subject test คือข้อสอบมาตรฐานที่ใช้วัดความถนัดเฉพาะทางเช่นกลุ่มวิชา Mathematics Level 1 หรือ Mathematics Level 2 ซึ่งจะมีความยากกว่า เคยใช้ยื่นเข้าคณะแพทย์หรือวิศวกรรมเป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้ข้อสอบ SAT II ได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปีมกราคม 2021 แล้วค่ะ

หากอยากทราบว่าคะแนน sat ใช้ยื่นคณะอะไรได้บ้าง << สามารถอ่านได้ที่บทความนี้

กลยุทธ์การเตรียมตัวสอบ SAT เพื่อความพร้อมสูงสุด

มาดูวิธีการเตรียมตัวสอบที่จะทำให้น้องๆ มั่นใจและพร้อมที่สุดสำหรับการสอบ SAT กันค่ะ 

การทำข้อสอบ sat
  1. เริ่มฝึกตั้งแต่เนิ่นๆ:วางแผนและกำหนดเวลาในการเตรียมตัวอย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนสอบ เพราะยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่ ผลคะแนนก็มีโอกาสดีขึ้นมากเท่านั้น
  2. ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง: ทำข้อสอบตามรูปแบบจริงในแอพ Bluebook™ ของ College Board หลังทำทุกครั้งควรทบทวนคำตอบที่ผิด และเน้นฝึกในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่
  3. จัดการเวลา: ฝึกทำข้อสอบในเวลาจำกัดเพื่อเรียนรู้การบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ
  4. ศึกษาการเดินทางไปศูนย์สอบ: นอกจากที่จะคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบและเวลาที่กำหนดไว้ในการสอบแล้ว เราควรเสริมสร้างความมั่นใจด้วยการศึกษาเส้นทางไปยังศูนย์สอบ
  5. พักผ่อนอย่างเพียงพอ: หลังจากเตรียมตัวสอบ SAT มาอย่างเข้มข้นแล้ว อย่าลืมหาเวลาผ่อนคลายและพักผ่อนในเต็มที่เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการสอบมากที่สุดด้วยนะคะ

เทคนิคทำข้อสอบ SAT ให้คะแนนได้คะแนนเพิ่ม

พี่คัดมาให้แล้วสำหรับ 10 เทคนิคที่ดีที่สุดในการทำข้อสอบ SAT ถ้าน้องสามารถปรับใช้กับตัวเองได้ทุกข้อ รับรองว่าคะแนน SAT พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน จะมีอะไรบ้างตามมาดูค่ะ

เทคนิคการทำข้อสอบ sat
  1. บริหารเวลาตอนทำ: การสอบมีการจับเวลาในตัวอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าหากคำนวณมาแล้ว จะมีเวลาทำข้อสอบข้อละ 1 นาที 11 วินาทีสำหรับข้อสอบ SAT ENG และ 1 นาที 35 วินาทีสำหรับข้อสอบ SAT Math แต่จริงๆแล้วแต่ละข้อนั้นเราไม่ได้ใช้เวลาเท่ากัน ยิ่งเราทำข้อสอบไปในข้อถัดๆ ไป โจทย์ก็มีสิทธิ์ที่จะยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นควรบริหารจัดการเวลาให้ดี ใช้เวลาน้อยกับข้อที่ง่าย และให้เวลากับข้อที่ยาก ถ้าเราใช้เวลากับข้อไหนมากเกินไป ทำเครื่องหมายกับข้อนั้นไว้ และเราค่อยกลับมาดูภายหลังได้
  2. จดโน้ต: สำหรับข้อสอบ SAT ENG เราสามารถที่จะไฮไลท์ส่วนสำคัญและจดโน้ตได้ ซึ่งอาจจะทำให้เราอ่านบทความได้ง่ายและสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องมากขึ้น
  3. อย่าคิดเรื่อง Choice ที่ซ้ำกันเยอะไป: ในบางครั้งคำตอบของเราอาจจะเป็น A ติดกัน 10 ข้อ หรือไม่มี A เลยใน 10 ข้อนั้นเลยก็ได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ ให้เราใช้ Eliminator Tool ในแอพพลิเคชั่นในการตัดช้อยส์ และเลือกช้อยส์ที่ดีที่สุดได้เลย
  4. ตอบให้ครบทุกข้อ: ตอนที่ใกล้หมดเวลา ให้กลับไปข้อที่เราข้ามมาหรือทำเครื่องหมายเอาไว้ ถ้าไม่สามารถตอบได้จริงๆ ให้เดาเอาได้เลย SAT ไม่มีการหักลบคะแนนจากข้อที่ผิดเพราะฉะนั้นการตอบให้ครบทุกข้อ จะทำให้เพิ่มโอกาสในการได้คะแนนมากขึ้นของเรา
  5. สามารถสลับข้อทำไปมาใน Module ได้: หลังจากที่เริ่ม Module แล้ว Set คำถามจะเหมือนเดิมเพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะเลือกทำข้อไหนก่อนก็ได้
  6. ทำให้เต็มที่: ไม่ต้องเสียเวลาในการคิดเลยว่าคำถามที่เราทำอยู่นั้นเป็นข้อที่ง่าย ปานกลาง หรือยาก ให้โฟกัสและทำให้เต็มที่ในทุกข้อ
  7. เรียนรู้วิธีการใช้ Desmos Graphing Calculator: Desmos Graphing Calculator เป็นตัวช่วยที่ดีมากในการทำข้อสอบ SAT Math เพราะฉะนั้นเราจะต้องเรียนรู้วิธีการใช้มัน รวมไปถึงเข้าใจข้อมูลที่อยู่ใน Reference Sheets ด้วย และถ้าเรานำเครื่องคิดเลขไปเอง เราจะต้องฝึกการใช้เครื่องคิดเลขนั้นให้ชินก่อนไปสอบด้วย
  8. ฝึกทำข้อสอบจาก Bluebook™เราสามารถที่จะฝึกจับเวลา และฝึกการทำข้อสอบในรูปแบบที่เหมือนจริงได้เลยใน Application นี้
  9. แก้ไขในจุดที่เราพลาดมากที่สุด: มันสำคัญมากที่เราจะดูว่าในการฝึกทำข้อสอบ เรามีข้อผิดพลาดในส่วนไหนมากที่สุด หลังจากนั้นฝึกทำข้อสอบให้เยอะ และพยายามแก้ไขในจุดที่เราผิดพลาดให้ได้
  10. พักผ่อนให้เพียงพอและทำให้เต็มที่!: สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การเตรียมตัวสอบคือการพักผ่อน ในคืนก่อนการสอบ พักผ่อนให้มาก ทำให้ร่างกายของเราพร้อมสำหรับการสอบ และไปลุยให้เต็มที่ในวันสอบจริง!

สรุปการเตรียมตัวสอบ SAT 

การเตรียมตัวสอบ SAT ไม่ใช่เรื่องของการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะอย่างครอบคลุมในหลายด้าน ซึ่งบทความนี้พี่ได้แบ่งให้เห็นตัวอย่างข้อสอบ SAT ENG และ ตัวอย่างข้อสอบ SAT MATH อย่างชัดเจนในแต่ละ Domain และ Skill เพื่อที่น้องๆ จะได้แนวทางสำหรับการเตรียมตัวสอบมากที่สุด สุดท้ายนี้พี่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยสร้างความมั่นใจให้น้องๆ ได้เตรียมตัวอย่างดีที่สุดสำหรับการสอบ SAT นะคะ